มาตรฐานท่อน้ำร้อนในงานระบบน้ำประปา

ไม่ใช่ว่าท่อทุกชนิดจะเหมาะสมกับการใช้เป็นท่อน้ำร้อน
ท่อน้ำร้อน จะต้องทนความร้อนได้สูง และต้องทนแรงดันได้ดี ท่อน้ำร้อนที่ดีจะต้องไม่ทำปฏิกิริยากับความร้อนแล้วเกิดสารตกค้าง หรือเกิดอาการท่อย้วยเปลี่ยนรูปทรงเมื่อน้ำร้อนไหลผ่าน และต้องสามารถใช้งานน้ำร้อนได้ที่อุณหภูมิไม่น้อยกว่า 90 องศาเซลเซียส
ท่อที่เหมาะสมสำหรับใช้เป็นท่อน้ำร้อน ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยมี 4 ประเภท ดังนี้
1. ท่อเหล็กชุปกัลวาไนซ์ มีความแข็งแรงสูง ทนความร้อนได้สูงมากกว่า 90 องศาเซลเซียส แต่สูญเสียความร้อนได้สูงจึงควรต้องต้องหุ้มฉนวนเพื่อลดการสูญเสียความร้อน ราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับท่ออีก 3 ประเภท แต่มีปัญหาการเกิดสนิม
2. ท่อทองแดง มีความแข็งแรงต่ำ บุบงอได้ง่ายเมื่อถูกแรงกระแทก ทนความร้อนได้สูงมากกว่า 90 องศาเซลเซียส สูญเสียความร้อนได้สูงจึงควรต้องต้องหุ้มฉนวนเพื่อลดการสูญเสียความร้อน ไม่มีปัญหาการเกิดสนิม มีราคาแพงที่สุดเมื่อเทียบกับท่ออีก 3 ประเภท
3. ท่อเหล็กบุพีอี ไซเลอร์ ภายนอกเป็นท่อเหล็กชุปกัลวาไนท์ จึงมีความแข็งแรงสูง ภายในท่อบุด้วยพีอีเพื่อป้องกันสนิม และเป็นพีอีชนิดที่ไม่ทำให้น้ำเกิดสารปนเปื้อน ทนความร้อนได้สูงถึง 90 องศาเซลเซียส ท่อรับแรงดันน้ำได้ดี ปัญหาการเกิดสนิมต่ำ มีราคาค่อนข้างสูง
4. ท่อพีพีอาร์ ท่อน้ำชนิดล่าสุดที่มีจำหน่ายสำหรับงานระบบน้ำประปา ท่อ PPR มีความแข็งแรงพอสมควร แต่ก็ไม่เปราะแตกได้ง่าย ทนอุณหภูมิได้สูงถึง 95 องศาเซลเซียส ผลิตจากเม็ดพลาสติกสีเขียวคุณภาพสูง ชนิดที่มีคุณสมบัติที่ไม่ทำให้น้ำเกิดสารปนเปื้อน ไม่มีปัญหาการเกิดสนิม มีราคาค่อนข้างสูง
เนื่องจากประเทศไทยได้นำระบบการเดินท่อน้ำมาจากประเทศจีน ระบบวัดขนาดท่อจึงใช้หน่วยมาตรฐานแบบจีนคือ "หุนและนิ้ว" แต่โดยที่ท่อ PPR เป็นท่อน้ำระบบมาตรฐานของยุโรป ซึ่งใช้หน่วยเป็น "มิลลิเมตร" จึงต้องมีการแปลงขนาดให้ถูกต้องก่อนการนำมาใช้งานร่วมกัน
"อย่าคิดว่าสิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่า"
พุทธวจน