เมื่อต้องซื้อกระเบื้องเซรามิก หรือ แผ่นหิน มาปูพื้นหรือผนังบ้าน มักสงสัยกันเสมอว่าต้องซื้อของเผื่อไว้ที่เท่าไหร่ดี
โดยทั่วไปผู้จำหน่ายมักบอกให้เราซื้อเผื่อประมาณ 5 ถึง 10% ของจำนวนพื้นที่ ที่เราวัดมา
แต่จากประสบการณ์ที่ได้พบมาจากงานหลายโครงการ กลับพบว่าการเผื่ออาจอยู่ระหว่าง 5 ถึง 20% เลยทีเดียว
ต่อไปนี้คือรายการสาเหตุที่เจ้าของบ้านต้องพิจารณา ว่าควรซื้อจำนวนกระเบื้องเผื่อมากหรือน้อย
สาเหตุที่ทำให้ต้องซื้อกระเบื้องเผื่อจำนวนมากขึ้น
พื้นที่ปูน้อย ยิ่งพื้นที่ปูน้อยยิ่งต้องซื้อกระเบื้องเผื่อมากขึ้น
มีการวางลวดลายหรือรูปแบบมาก ทำให้ต้องมีการตัดกระเบื้องมาก
พื้นที่มีเหลี่ยมมุมมาก ทำให้ต้องมีการตัดกระเบื้องมาก
ไม่มีแบบการปูกระเบื้อง ถ้ามีแบบเราสามารถนับจำนวนที่จะใช้ได้แบบนับเป็นแผ่น แต่ถ้าไม่มีเราต้องนับเป็นพื้นที่แบบตารางเมตรแทน
เนื่องจากการผลิตกระเบื้องในแต่ละชุด อาจมีสีที่ผิดเพี้ยนจากกัน ดังนั้นการซื้อกระเบื้องมาปูเพิ่มในครั้งต่อไป เราอาจไม่ได้กระเบื้องที่ผลิตมาจากชุดเดียวกัน ถ้าเราไม่ต้องการให้สีเพี้ยน เราอาจจำเป็นต้องซื้อของเผื่อเพิ่ม
กระเบื้องต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ ต้องเผื่อมากขึ้น มิเช่นนั้นเราอาจต้องรอการนำเข้าเป็นเวลานาน เมื่อเราต้องการซื้อเพิ่มในครั้งต่อไป
สินค้าราคาพิเศษ เนื่องจากการโละสต๊อก กระเบื้องตัวนั้นอาจไม่มีการผลิตหรือนำเข้ามาจำหน่ายอีกแล้ว
มักมีคำแนะนำให้เราต้องเก็บกระเบื้องไว้เผื่อต้องซ่อมแซมในภายหลังเสมอ อย่างไรก็ตามนั่นก็ทำให้เราต้องมีที่เก็บกระเบื้องเหล่านั้นไว้ด้วย
ตัวอย่างแบบงานปูกระเบื้องพื้น
สำหรับโครงการตามแบบด้านบน เจ้าของบ้านต้องซื้อกระเบื้องเผื่อเป็นจำนวนมากกว่าปกติ เนื่องจากมีการปูลวดลายหลายแบบ มีการปูแบบทะแยงมุม มีการตัดขอบ และห้องมีเหลี่ยมมุมเยอะ นอกจากนั้นยังใช้กระเบื้องนำเข้าจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตามการเผื่อก็ลดลงได้เนื่องจากสามารถนับจำนวนกระเบื้องได้แบบเป็นแผ่นตามที่แบบได้แสดงไว้
"อย่าคิดว่าสิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่า"
พุทธวจน
